You are currently viewing เลือกแอร์โรงงานอย่างไรให้คุ้มค่า

เลือกแอร์โรงงานอย่างไรให้คุ้มค่า

การเลือกแอร์สำหรับโรงงานเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว เนื่องจากในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเครื่องจักรและกระบวนการผลิต ความเย็นที่เหมาะสมจะช่วยให้เครื่องจักรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยรักษาความสะดวกสบายให้กับพนักงานภายในโรงงานด้วย ในการเลือกแอร์สำหรับโรงงานนั้นไม่เพียงแต่พิจารณาความเย็นที่ต้องการเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงพลังงานที่ใช้และประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ด้วย ดังนั้นการเลือกแอร์ที่มีคุณภาพและเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ความคุ้มค่าในระยะยาวทั้งในด้านการใช้งานและค่าใช้จ่าย

ทำไมการเลือก แอร์โรงงาน ถึงสำคัญ?

การเลือก เครื่องปรับอากาศในโรงงาน ที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วย ลดค่าไฟ แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน ลดความชื้น และรักษาสภาพเครื่องจักรและสินค้าให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสม การเลือกแอร์ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิด ต้นทุนค่าไฟสูง หรือมีปัญหาด้านบำรุงรักษาในระยะยาว

  1. คำนวณขนาด BTU ของแอร์ให้เหมาะสม

หนึ่งในข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดคือการเลือกแอร์ที่มีขนาด BTU (British Thermal Unit) ไม่เหมาะสม หากเลือกขนาดเล็กเกินไป แอร์จะทำงานหนักเกินไป ทำให้เสียเร็ว แต่หากเลือกขนาดใหญ่เกินไป จะสิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น

วิธีคำนวณ BTU ของแอร์โรงงาน

  • โรงงานที่มี เพดานสูง (มากกว่า 3 เมตร) ควรเพิ่มขนาด BTU มากกว่าปกติ
  • โรงงานที่มี เครื่องจักรทำงานตลอดเวลา จะปล่อยความร้อนสูง ต้องเลือกแอร์ที่รองรับภาระความร้อนนี้
  • ใช้สูตรพื้นฐาน: พื้นที่ (ตารางเมตร) x ค่าโหลดความร้อน (500-800 ขึ้นอยู่กับประเภทโรงงาน) = BTU ที่ต้องใช้

  1. ประเภทของแอร์ที่เหมาะกับโรงงาน

แอร์ที่ใช้ในโรงงานจะแตกต่างจากแอร์บ้านทั่วไป โดยสามารถแบ่งเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้:

  • แอร์แบบตั้งพื้น-แขวนเพดาน เหมาะกับโรงงานขนาดกลางที่ต้องการการกระจายลมที่ดี
  • แอร์แบบฝังฝ้า เหมาะกับโรงงานที่ต้องการความสวยงาม และไม่ต้องการให้แอร์เกะกะพื้นที่
  • แอร์แบบต่อท่อลม (Duct Type) เหมาะกับโรงงานขนาดใหญ่ที่ต้องการกระจายลมไปหลายจุดอย่างทั่วถึง
  • แอร์แบบชิลเลอร์ (Chiller System) เหมาะกับโรงงานขนาดใหญ่ที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิได้ทั้งระบบ
  1. เลือกแอร์ที่มี ระบบประหยัดพลังงาน

เพื่อช่วยลดค่าไฟ ควรเลือกแอร์ที่มีคุณสมบัติดังนี้:

  • ระบบ Inverter ควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์ให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น
  • ค่า SEER (Seasonal Energy Efficiency Ratio) สูง ค่า SEER ยิ่งสูง ยิ่งช่วยประหยัดไฟ
  • ใช้สารทำความเย็น R32 หรือ R410A เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

  1. ต้นทุนและค่าติดตั้งแอร์สำหรับโรงงาน

การเลือกแอร์โรงงานไม่ควรดูแค่ราคาเครื่อง แต่ต้องพิจารณา ค่าติดตั้ง และ ค่าบำรุงรักษาระยะยาว ด้วย โรงงานขนาดใหญ่ควรเลือกผู้ให้บริการที่มี ทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ และมีบริการหลังการขายที่ดี

  • เปรียบเทียบราคาแอร์จากหลายแบรนด์ เช่น Daikin, Carrier, Mitsubishi Electric
  • ตรวจสอบ ค่าติดตั้ง และ บริการหลังการขาย
  • คำนวณ ROI (Return on Investment) เพื่อดูความคุ้มค่าระยะยาว
  1. การบำรุงรักษาและอายุการใช้งาน

เพื่อให้แอร์โรงงานมีอายุการใช้งานยาวนาน ควรมีแผนบำรุงรักษาดังนี้

  • ล้างแอร์ทุก 3-6 เดือน เพื่อให้เครื่องทำงานเต็มประสิทธิภาพ
  • ตรวจสอบน้ำยาแอร์ อย่างสม่ำเสมอ
  • ตรวจสอบความเสียหายของคอมเพรสเซอร์ ป้องกันความเสียหายร้ายแรง
  • เลือกแอร์ที่มีอะไหล่รองรับง่าย และหาช่างซ่อมได้สะดวก

แหล่งที่มา:

  1. Daikin Thailand – ระบบแอร์โรงงาน
  2. Mitsubishi Electric – เครื่องปรับอากาศโรงงาน
  3. Toshiba Air Conditioning – คำแนะนำเกี่ยวกับแอร์โรงงาน

 

 

ใส่ความเห็น