การเลือกแอร์สำหรับโรงงานเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว เนื่องจากในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเครื่องจักรและกระบวนการผลิต ความเย็นที่เหมาะสมจะช่วยให้เครื่องจักรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยรักษาความสะดวกสบายให้กับพนักงานภายในโรงงานด้วย ในการเลือกแอร์สำหรับโรงงานนั้นไม่เพียงแต่พิจารณาความเย็นที่ต้องการเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงพลังงานที่ใช้และประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ด้วย ดังนั้นการเลือกแอร์ที่มีคุณภาพและเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ความคุ้มค่าในระยะยาวทั้งในด้านการใช้งานและค่าใช้จ่าย

ทำไมการเลือก แอร์โรงงาน ถึงสำคัญ?
การเลือก เครื่องปรับอากาศในโรงงาน ที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วย ลดค่าไฟ แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน ลดความชื้น และรักษาสภาพเครื่องจักรและสินค้าให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสม การเลือกแอร์ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิด ต้นทุนค่าไฟสูง หรือมีปัญหาด้านบำรุงรักษาในระยะยาว
-
คำนวณขนาด BTU ของแอร์ให้เหมาะสม
หนึ่งในข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดคือการเลือกแอร์ที่มีขนาด BTU (British Thermal Unit) ไม่เหมาะสม หากเลือกขนาดเล็กเกินไป แอร์จะทำงานหนักเกินไป ทำให้เสียเร็ว แต่หากเลือกขนาดใหญ่เกินไป จะสิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น
วิธีคำนวณ BTU ของแอร์โรงงาน
- โรงงานที่มี เพดานสูง (มากกว่า 3 เมตร) ควรเพิ่มขนาด BTU มากกว่าปกติ
- โรงงานที่มี เครื่องจักรทำงานตลอดเวลา จะปล่อยความร้อนสูง ต้องเลือกแอร์ที่รองรับภาระความร้อนนี้
- ใช้สูตรพื้นฐาน: พื้นที่ (ตารางเมตร) x ค่าโหลดความร้อน (500-800 ขึ้นอยู่กับประเภทโรงงาน) = BTU ที่ต้องใช้

-
ประเภทของแอร์ที่เหมาะกับโรงงาน
แอร์ที่ใช้ในโรงงานจะแตกต่างจากแอร์บ้านทั่วไป โดยสามารถแบ่งเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้:
- แอร์แบบตั้งพื้น-แขวนเพดาน เหมาะกับโรงงานขนาดกลางที่ต้องการการกระจายลมที่ดี
- แอร์แบบฝังฝ้า เหมาะกับโรงงานที่ต้องการความสวยงาม และไม่ต้องการให้แอร์เกะกะพื้นที่
- แอร์แบบต่อท่อลม (Duct Type) เหมาะกับโรงงานขนาดใหญ่ที่ต้องการกระจายลมไปหลายจุดอย่างทั่วถึง
- แอร์แบบชิลเลอร์ (Chiller System) เหมาะกับโรงงานขนาดใหญ่ที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิได้ทั้งระบบ
-
เลือกแอร์ที่มี ระบบประหยัดพลังงาน
เพื่อช่วยลดค่าไฟ ควรเลือกแอร์ที่มีคุณสมบัติดังนี้:
- ระบบ Inverter ควบคุมการทำงานของคอมเพรสเซอร์ให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น
- ค่า SEER (Seasonal Energy Efficiency Ratio) สูง ค่า SEER ยิ่งสูง ยิ่งช่วยประหยัดไฟ
- ใช้สารทำความเย็น R32 หรือ R410A เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

-
ต้นทุนและค่าติดตั้งแอร์สำหรับโรงงาน
การเลือกแอร์โรงงานไม่ควรดูแค่ราคาเครื่อง แต่ต้องพิจารณา ค่าติดตั้ง และ ค่าบำรุงรักษาระยะยาว ด้วย โรงงานขนาดใหญ่ควรเลือกผู้ให้บริการที่มี ทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ และมีบริการหลังการขายที่ดี
- เปรียบเทียบราคาแอร์จากหลายแบรนด์ เช่น Daikin, Carrier, Mitsubishi Electric
- ตรวจสอบ ค่าติดตั้ง และ บริการหลังการขาย
- คำนวณ ROI (Return on Investment) เพื่อดูความคุ้มค่าระยะยาว
-
การบำรุงรักษาและอายุการใช้งาน
เพื่อให้แอร์โรงงานมีอายุการใช้งานยาวนาน ควรมีแผนบำรุงรักษาดังนี้
- ล้างแอร์ทุก 3-6 เดือน เพื่อให้เครื่องทำงานเต็มประสิทธิภาพ
- ตรวจสอบน้ำยาแอร์ อย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจสอบความเสียหายของคอมเพรสเซอร์ ป้องกันความเสียหายร้ายแรง
- เลือกแอร์ที่มีอะไหล่รองรับง่าย และหาช่างซ่อมได้สะดวก

แหล่งที่มา:
- Daikin Thailand – ระบบแอร์โรงงาน
- Mitsubishi Electric – เครื่องปรับอากาศโรงงาน
- Toshiba Air Conditioning – คำแนะนำเกี่ยวกับแอร์โรงงาน