การซื้อเครื่องปรับอากาาศมือสองเป็นทางเลือกที่หลายคนพิจารณาเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่การซื้อแอร์มือสองก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ แอร์มือสองอาจจะมีราคาถูกกว่ารุ่นใหม่ แต่การใช้แอร์เก่าก็อาจทำให้คุณต้องเผชิญกับปัญหาการทำงานที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรืออาจต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมในระยะยาว ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับข้อดีและข้อเสียของแอร์มือสอง พร้อมคำแนะนำวิธีเลือกซื้อแอร์มือสองให้คุ้มค่าและเหมาะสมกับการใช้งานของคุณ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและไม่ผิดหวังหลังจากซื้อ
ข้อดีของแอร์มือสอง
แอร์มือสองเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดงบประมาณแต่ยังต้องการความเย็นสบายภายในบ้านหรือสำนักงาน หากเลือกซื้ออย่างถูกต้องและตรวจสอบคุณภาพดีๆ ก็สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการซื้อแอร์ใหม่
- ราคาถูกกว่าของใหม่
- แอร์มือสองมักมีราคาถูกกว่าของใหม่ 30-50% ทำให้ช่วยประหยัดงบประมาณ
- เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแอร์ในราคาประหยัด เช่น หอพัก บ้านเช่า หรือสำนักงานขนาดเล็ก
- ได้แบรนด์ดีในราคาที่ถูกกว่า
- สามารถซื้อ แอร์แบรนด์ดัง อย่าง Daikin, Mitsubishi, Panasonic ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
- บางรุ่นที่เลิกผลิตแล้วแต่มีประสิทธิภาพดี อาจหาได้จากตลาดแอร์มือสอง
- ช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ (Eco-friendly)
- การใช้แอร์มือสองช่วยลดการทิ้งเครื่องใช้ไฟฟ้า ลดขยะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ข้อเสียของแอร์มือสอง
แม้แอร์มือสองจะเป็นทางเลือกที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ก็มีข้อเสียที่ผู้ซื้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อ แอร์มือสองอาจไม่ได้มาพร้อมกับการรับประกันหรือคุณสมบัติที่สมบูรณ์แบบเหมือนกับแอร์ใหม่ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
-
อายุการใช้งานสั้นลง
- แอร์มือสองมีการใช้งานมาก่อน ทำให้อายุการใช้งานเหลือน้อยกว่าของใหม่
- อาจต้องซ่อมแซมบ่อยหากไม่ได้รับการดูแลที่ดีจากเจ้าของเดิม
-
การใช้พลังงานอาจสูงกว่าแอร์รุ่นใหม่
- แอร์รุ่นเก่ามักมี ค่า SEER ต่ำ กว่าแอร์ใหม่ ทำให้ใช้ไฟมากขึ้น
- บางเครื่องอาจไม่มีระบบ Inverter ทำให้กินไฟมากขึ้นเมื่อใช้งานต่อเนื่อง
-
ความเสี่ยงเรื่องอะไหล่และการซ่อมแซม
- หากเป็นรุ่นเก่ามาก อะไหล่อาจหาได้ยากและมีราคาแพง
- ต้องตรวจสอบสภาพภายในเครื่องให้ดีเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
-
ไม่มีการรับประกันหรือประกันสั้นกว่าปกติ
- แอร์มือสองส่วนใหญ่ไม่มี การรับประกัน หรือรับประกันในระยะเวลาสั้นกว่าแอร์ใหม่มาก
- หากเครื่องมีปัญหาหลังซื้อ อาจต้องจ่ายค่าซ่อมเองทั้งหมด
วิธีเลือกซื้อแอร์มือสองให้คุ้มค่า
การเลือกซื้อแอร์มือสองเป็นวิธีที่ช่วยประหยัดงบประมาณได้มาก แต่การเลือกซื้อแอร์มือสองที่มีคุณภาพดีนั้นไม่ง่าย เพราะมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา เช่น สภาพเครื่อง อายุการใช้งาน และประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อให้ได้แอร์ที่คุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด
-
ตรวจสอบอายุการใช้งานของเครื่อง
- ควรเลือกแอร์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 5-7 ปี เพราะยังมีประสิทธิภาพดี
- แอร์ที่ใช้งานมานานกว่า 10 ปี อาจมีปัญหาเรื่องคอมเพรสเซอร์และระบบไฟฟ้า
-
ตรวจเช็คสภาพภายในและภายนอก
- ดูให้แน่ใจว่า คอยล์เย็นและคอยล์ร้อนไม่มีสนิมหรือคราบน้ำมัน
- ตรวจสอบ เสียงการทำงานของคอมเพรสเซอร์ ว่ายังทำงานปกติหรือไม่
-
ตรวจสอบค่า SEER และระบบ Inverter
- หากเป็นไปได้ ควรเลือกแอร์มือสองที่มี ระบบ Inverter เพื่อประหยัดไฟ
- ตรวจสอบค่า SEER ว่าไม่ต่ำเกินไป เพื่อให้ยังประหยัดพลังงาน
-
ขอทดลองเปิดใช้งานก่อนซื้อ
- ลองเปิดแอร์และฟังเสียงการทำงานของเครื่องว่าปกติหรือไม่
- ตรวจสอบ การไหลของลมและอุณหภูมิ ว่าสามารถทำความเย็นได้ดี
-
ซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้
- เลือกร้านที่มีบริการ รับประกันหลังการขาย และมีช่างให้คำแนะนำ
- หลีกเลี่ยงการซื้อแอร์มือสองจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
แอร์มือสองเหมาะกับใครบ้าง?
แอร์มือสองเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการความเย็นสบายในราคาประหยัด แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะสมกับการเลือกใช้แอร์มือสอง การเลือกซื้อแอร์มือสองจึงควรพิจารณาจากความต้องการการใช้งานและสภาพการเงินของแต่ละคน
- ผู้ที่มีงบประมาณจำกัด สำหรับคนที่ต้องการติดตั้งแอร์แต่มีงบประมาณไม่มาก แอร์มือสองเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าแอร์ใหม่
- ผู้ที่ต้องการแอร์ใช้งานในระยะสั้น หากต้องการแอร์สำหรับการใช้งานในระยะสั้น เช่น ในหอพัก ออฟฟิศชั่วคราว หรือห้องเช่าระยะสั้น แอร์มือสองจะเป็นทางเลือกที่ดี
- ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานแอร์บ่อย หากไม่ใช่พื้นที่ที่ต้องการใช้แอร์ตลอดเวลา เช่น บ้านพักตากอากาศ หรือห้องนอนที่ไม่ต้องการแอร์เย็นตลอดเวลา
- ผู้ที่ไม่ต้องการเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด สำหรับผู้ที่ไม่เน้นฟังก์ชันล้ำสมัยหรือคุณสมบัติพิเศษ แอร์มือสองที่มีฟังก์ชันพื้นฐานก็สามารถใช้งานได้ดี
- ผู้ที่มีความรู้ในการซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้า สำหรับคนที่มีความรู้ในการดูแลรักษาแอร์หรือสามารถซ่อมแซมได้เอง แอร์มือสองจะเป็นทางเลือกที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม
- ผู้ที่ต้องการแอร์รุ่นเก่าในราคาถูก สำหรับคนที่อยากได้แอร์รุ่นเก่าที่ไม่สามารถหาซื้อได้ในตลาดใหม่ แอร์มือสองอาจเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้ได้แอร์ที่ต้องการในราคาที่ถูกกว่า
แอร์มือสอง มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากต้องการซื้อให้คุ้มค่า ควรเลือกเครื่องที่อายุไม่เกิน 5-7 ปี ตรวจสอบสภาพภายนอกและภายในให้ดี และซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้ ผู้ที่เหมาะกับแอร์มือสองคือผู้ที่ต้องการ ประหยัดงบประมาณ หรือใช้งานในระยะเวลาสั้น ๆ แต่ถ้าต้องการแอร์ที่มี ความคุ้มค่าในระยะยาว แอร์ใหม่อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
- เว็บไซต์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT)
- คู่มือเลือกซื้อแอร์จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (DEDE)
- รีวิวแอร์มือสองจากผู้ใช้งานจริง