ในช่วงที่อากาศร้อนจัด แอร์คอนโดถือเป็นสิ่งที่ช่วยให้เรารู้สึกเย็นสบาย แต่การใช้แอร์บ่อยๆ อาจทำให้ค่าไฟพุ่งสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว! หลายคนอาจไม่ทราบว่า การใช้เครื่องปรับอากาศอย่างถูกวิธี สามารถช่วย ประหยัดพลังงาน และ ลดค่าไฟ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องสูญเสียความเย็นสบายเลย จากการเลือกใช้แอร์ที่เหมาะสมกับขนาดห้อง ไปจนถึง เทคนิคการตั้งอุณหภูมิ การดูแลรักษาแอร์ และการปรับพฤติกรรมการใช้แอร์ ล้วนมีผลต่อการประหยัดไฟได้ทั้งสิ้น! ในบทความนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณใช้แอร์ได้คุ้มค่า เย็นสบาย และไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟที่สูงเกินไป
อย่าลืม! การตั้งอุณหภูมิแอร์ที่เหมาะสมช่วยประหยัดไฟได้จริง
การตั้งอุณหภูมิแอร์ มีผลโดยตรงต่อปริมาณการใช้พลังงาน ค่าที่เหมาะสมช่วยให้ห้องเย็นสบาย และไม่ทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักเกินไป
แนะนำอุณหภูมิแอร์ที่เหมาะสม
- 25-27°C เป็นค่าที่ช่วยให้ห้องเย็นสบาย และลดการใช้พลังงาน
- ใช้ โหมด Auto หรือ Eco Mode เพื่อให้แอร์ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ
- หลีกเลี่ยงการตั้งแอร์ต่ำกว่า 22°C เพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักและกินไฟมากขึ้น
- หากใช้พัดลมร่วมด้วย สามารถตั้งแอร์ที่ 27°C ได้โดยยังคงความเย็นสบาย
- ปิดแอร์ก่อนออกจากห้อง 15-30 นาที เพื่อลดการใช้พลังงานโดยไม่รู้สึกถึงความร้อนสะสม
รู้ก่อนใช้! วิธีใช้แอร์อินเวอร์เตอร์ให้คุ้มค่า ประหยัดไฟจริง
แอร์อินเวอร์เตอร์ (Inverter Air Conditioner) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วย ประหยัดพลังงาน มากกว่าแอร์ทั่วไป แต่ต้องใช้อย่างถูกวิธีเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
วิธีใช้แอร์อินเวอร์เตอร์ให้คุ้มค่า
- เปิดแอร์เป็นระยะเวลานาน เพราะระบบอินเวอร์เตอร์จะปรับรอบมอเตอร์ให้อยู่ในระดับต่ำเมื่ออุณหภูมิคงที่ ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงาน
- หลีกเลี่ยงการเปิด-ปิดบ่อยๆ เพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้น
- เลือก ขนาด BTU ที่เหมาะสม กับขนาดห้อง เช่น ห้องขนาด 20 ตร.ม. ควรใช้แอร์ 12,000-18,000 BTU
- แอร์อินเวอร์เตอร์จะคุ้มค่าที่สุดเมื่อใช้งานต่อเนื่องมากกว่า 4 ชั่วโมงขึ้นไป
- ตรวจสอบว่าแอร์ได้รับการบำรุงรักษาสม่ำเสมอ เช่น การทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศทุกเดือน
แอร์เย็น ประหยัดไฟ! เทคนิคเสริมที่จะช่วยลดค่าไฟให้คุณได้จริง
นอกจากการตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสมและการใช้แอร์อินเวอร์เตอร์อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังมี เทคนิคเพิ่มเติม ที่ช่วยลดค่าไฟได้อีก
1. ปิดม่านหรือใช้ฟิล์มกันความร้อน
- ป้องกันความร้อนจากแสงแดด ทำให้ห้องเย็นขึ้นโดยที่แอร์ไม่ต้องทำงานหนัก
- ใช้ ม่านกัน UV หรือฟิล์มกรองแสง เพื่อลดความร้อนเข้าสู่ห้อง
2. ทำความสะอาดแอร์สม่ำเสมอ
- ล้างแผ่นกรองอากาศทุก 2-4 สัปดาห์ เพื่อลดฝุ่นสะสมที่ทำให้แอร์ทำงานหนัก
- ล้างคอยล์เย็นทุก 6 เดือน และคอยล์ร้อนทุก 1 ปี เพื่อให้แอร์ทำงานเต็มประสิทธิภาพ
3. ใช้พัดลมช่วยกระจายความเย็น
- ช่วยให้อากาศเย็นกระจายตัวเร็วขึ้น ลดการทำงานของคอมเพรสเซอร์
- ตั้งพัดลมให้หันเข้าหาตัวเพื่อรับความเย็นโดยตรง
4. ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น
- อุปกรณ์ไฟฟ้าปล่อยความร้อน เช่น หลอดไฟ, คอมพิวเตอร์, ทีวี ซึ่งทำให้ห้องร้อนขึ้น
- ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน เพื่อลดภาระให้กับแอร์
5. ตรวจสอบฉนวนกันความร้อนของห้อง
- ตรวจสอบว่าประตูและหน้าต่างปิดสนิท ไม่มีช่องลมรั่ว
- ใช้ ซีลยางกันลม ตามขอบประตูและหน้าต่าง เพื่อลดการสูญเสียความเย็น
6. ใช้โหมด Sleep หรือ Timer
- โหมด Sleep Mode จะช่วยลดความเย็นอัตโนมัติขณะนอนหลับ ทำให้แอร์ประหยัดพลังงานมากขึ้น
- ใช้ Timer ตั้งเวลาให้แอร์ปิดเองเมื่อต้องการหลีกเลี่ยงการเปิดแอร์ตลอดทั้งคืน
การใช้แอร์ให้ ประหยัดไฟในคอนโด สามารถทำได้โดยการ ตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม, ใช้อินเวอร์เตอร์ให้คุ้มค่า และนำเทคนิคเสริมมาช่วยลดภาระการทำงานของแอร์ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กน้อยสามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของแอร์อีกด้วย
แหล่งที่มา:
- EGAT การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
- Daikin Thailand
- Mitsubishi Electric Thailand
- Panasonic Thailand
- Samsung Thailand
- LG Thailand
