อากาศร้อนจัดแบบนี้ เครื่องปรับอากาศกลายเป็นไอเทมสำคัญที่ขาดไม่ได้ แต่ปัญหาที่ตามมาคือ ค่าไฟที่พุ่งสูงขึ้น จนหลายคนต้องลังเลก่อนกดรีโมทเปิดแอร์! แท้จริงแล้ว มีหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณ เปิดแอร์ได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องกังวลกับบิลค่าไฟที่บานปลาย บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก เทคนิคประหยัดพลังงานในการใช้แอร์ ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าอุณหภูมิที่เหมาะสม การดูแลรักษาแอร์ หรือการใช้ตัวช่วยเสริมที่ช่วยลดการใช้พลังงาน หากคุณอยากให้บ้านเย็นฉ่ำแต่ค่าไฟยังอยู่ในงบ รีบมาดูวิธีที่ได้ผลจริงกันเลย!
แอร์เย็นเร็ว ไม่เปลืองไฟ! วิธีปรับอุณหภูมิให้ห้องเย็นฉ่ำในพริบตา
การตั้งอุณหภูมิแอร์อย่างเหมาะสมมีผลต่อทั้งความเย็นและการใช้พลังงาน วิธีการตั้งค่าให้เย็นเร็วโดยไม่เปลืองไฟ มีดังนี้
1. ตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม
- ควรตั้งอุณหภูมิที่ 25-27 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่ให้ความเย็นสบายและช่วยลดภาระของแอร์
- การตั้งอุณหภูมิต่ำกว่า 23 องศาเซลเซียส อาจทำให้แอร์ทำงานหนักเกินไป และเปลืองไฟมากขึ้น
2. ใช้โหมดพัดลม (Fan Mode) ร่วมกับแอร์
- การเปิดพัดลมช่วยกระจายลมเย็นทั่วห้องได้เร็วขึ้น ทำให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนัก
- ลดการใช้พลังงานลงได้โดยไม่ต้องลดอุณหภูมิแอร์ให้ต่ำเกินไป
3. เปิดโหมดเร่งความเย็น (Turbo Mode หรือ Fast Cooling)
- แอร์บางรุ่นมี โหมด Turbo หรือ Fast Cooling ที่ช่วยให้แอร์เร่งทำความเย็นได้เร็วขึ้นในช่วงแรก
- เมื่อห้องเย็นลงแล้ว ควรเปลี่ยนกลับไปใช้โหมดปกติ เพื่อลดการใช้พลังงาน
ใช้แอร์ให้เป็น! เปิด-ปิดแบบไหนช่วยประหยัดไฟได้มากที่สุด
การเปิด-ปิดแอร์อย่างถูกต้องจะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดค่าไฟ วิธีที่แนะนำมีดังนี้
1. ปิดแอร์ก่อนออกจากห้อง 15-30 นาที
- หากต้องออกจากห้องเป็นเวลานาน ควรปิดแอร์ล่วงหน้า 15-30 นาที และใช้พัดลมช่วยไล่ความร้อนแทน
2. ไม่ควรเปิด-ปิดแอร์บ่อย ๆ
- การเปิด-ปิดแอร์ถี่ ๆ ทำให้คอมเพรสเซอร์ต้องเริ่มทำงานใหม่บ่อยครั้ง ซึ่งใช้พลังงานมากขึ้น
- หากต้องออกจากห้องชั่วคราว ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ควรใช้โหมด Sleep หรือปรับอุณหภูมิขึ้นแทน
3. ใช้โหมด Sleep หรือ Eco Mode ตอนกลางคืน
- ช่วยลดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ในช่วงที่อากาศเย็นลงตอนกลางคืน
- ทำให้แอร์ใช้พลังงานน้อยลง และช่วยลดค่าไฟได้มากถึง 20-30%
4. ปิดประตูและหน้าต่างให้สนิท
- ลดการรั่วไหลของอากาศเย็น ช่วยให้แอร์ทำงานน้อยลงและเย็นเร็วขึ้น
- หากมีช่องรั่วซึม ควรใช้ ยางกันลม หรือ ม่านกันแสงแดด มาช่วยป้องกันความร้อนจากภายนอก
ดูแลแอร์ให้เย็นฉ่ำ! เคล็ดลับง่ายๆ ที่ช่วยให้แอร์ทำงานเต็มประสิทธิภาพ
นอกจากการใช้งานอย่างถูกต้องแล้ว การดูแลรักษาแอร์บ้าน เป็นประจำจะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและช่วยประหยัดไฟ วิธีดูแลแอร์ที่สำคัญมีดังนี้
1. ล้างแผ่นกรองอากาศทุก 2 สัปดาห์
- ฝุ่นสะสมในแผ่นกรองทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น และลดการไหลเวียนของอากาศ
- ควรทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าและตากให้แห้งก่อนใส่กลับเข้าไป
2. ล้างแอร์ใหญ่ทุก 6 เดือน
- ควรให้ช่างมืออาชีพล้างแอร์ใหญ่ทุก 6 เดือน เพื่อขจัดฝุ่นและคราบสกปรกที่อาจอุดตันคอยล์เย็น
- ลดภาระการทำงานของแอร์ และช่วยให้เย็นเร็วขึ้น
3. ตรวจเช็คระดับน้ำยาแอร์
- น้ำยาแอร์ที่ต่ำกว่าปกติอาจทำให้แอร์เย็นช้าและเปลืองไฟมากขึ้น
- หากแอร์ไม่เย็น ควรเรียกช่างมาตรวจสอบระดับน้ำยาแอร์
4. ตรวจสอบความสะอาดของคอยล์ร้อน
- คอยล์ร้อนที่มีฝุ่นเกาะมาก จะทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดี และทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น
- ควรล้างทำความสะอาดคอยล์ร้อนปีละ 1-2 ครั้ง
5. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปล่อยความร้อน
- เครื่องใช้ไฟฟ้าเช่น ทีวี คอมพิวเตอร์ หรือหลอดไฟที่ให้ความร้อนอาจทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น
- ปิดอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นเมื่อเปิดแอร์ จะช่วยให้แอร์ทำงานน้อยลงและประหยัดไฟมากขึ้น
การใช้ แอร์บ้านให้เย็นเร็วและประหยัดไฟ ควรเริ่มต้นจาก การตั้งอุณหภูมิที่เหมาะสม, การเปิด-ปิดแอร์อย่างถูกต้อง และ การดูแลรักษาแอร์เป็นประจำ เพื่อลดภาระของแอร์และช่วยให้เครื่องทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ หากปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น คุณจะสามารถใช้งานแอร์ได้อย่างคุ้มค่า และช่วยลดค่าไฟได้อย่างเห็นผล
แหล่งที่มา:
