แม้ว่าเครื่องปรับอากาศ จะช่วยให้บ้านเย็นสบายในทุกฤดูกาล แต่หากใช้งานอย่างไม่ถูกต้อง หรือเลือกเครื่องปรับอากาศที่ไม่เหมาะสม อาจกลายเป็นอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะใน บ้านที่มีเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ซึ่งมีความไวต่อสภาพแวดล้อมทางอากาศมากกว่าคนทั่วไป การตั้งค่าแอร์ที่ไม่เหมาะสมหรือการเลือกแอร์ที่ไม่มีระบบกรองอากาศที่ดีอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น การแพ้ฝุ่น การระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ หรือการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับความเย็นหรืออุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ อันตรายที่อาจเกิดจากแอร์ ในบ้านที่มีเด็กและผู้สูงอายุ พร้อมคำแนะนำวิธีเลือกซื้อแอร์ที่ปลอดภัยและวิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง เพื่อให้คุณสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพในทุกๆ วัน

แอร์เย็นแต่ไม่ปลอดภัย? ปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดจากการใช้แอร์ผิดวิธี
เครื่องปรับอากาศหรือแอร์ กลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในประเทศที่มีอากาศร้อนชื้นอย่างประเทศไทย แต่การใช้แอร์อย่างไม่ถูกวิธี อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยที่เราคาดไม่ถึง ดังนี้
ไข้หวัดและระบบทางเดินหายใจ
เด็กและผู้สูงอายุมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอกว่าคนทั่วไป การเปิดแอร์ในอุณหภูมิที่ต่ำเกินไปหรือเปลี่ยนจากอากาศร้อนเข้าสู่ห้องแอร์อย่างกะทันหัน อาจทำให้เกิด ไข้หวัด ไอ และคัดจมูก ได้ง่าย
วิธีป้องกัน
- ตั้งอุณหภูมิแอร์ไว้ที่ 25-27 องศาเซลเซียส
- ปรับระดับความชื้นภายในห้องให้อยู่ที่ 50-60%
- หลีกเลี่ยงการออกจากห้องแอร์ไปที่อากาศร้อนทันที
ปอดบวมและภาวะระบบหายใจล้มเหลว
สำหรับเด็กเล็กและผู้สูงอายุ การสูดอากาศที่เย็นเกินไปเป็นเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อ ปอดบวมและภาวะหายใจล้มเหลว ได้
วิธีป้องกัน
- อย่าปรับอุณหภูมิต่ำกว่า 24 องศาเซลเซียส
- ใช้ โหมด Auto หรือ Sleep เพื่อลดการทำงานของแอร์ในช่วงดึก
- สวมเสื้อผ้าหนาให้เด็กและผู้สูงอายุเมื่ออยู่ในห้องแอร์
โรคภูมิแพ้และปัญหาฝุ่นละออง
แอร์ที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอจะกลายเป็นแหล่งสะสมของ ฝุ่น เชื้อรา และไรฝุ่น ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิด โรคภูมิแพ้ หอบหืด และโรคผิวหนัง ได้
วิธีป้องกัน
- ล้างแผ่นกรองอากาศทุก 2 สัปดาห์
- ล้างแอร์โดยช่างผู้เชี่ยวชาญทุก 6 เดือน
- เลือกแอร์ที่มี ระบบฟอกอากาศ (เช่น Nanoe, Plasma, UV-C)

เคล็ดลับใช้งานแอร์ให้ได้ผล! ลดค่าไฟและดูแลแอร์ให้ยาวนาน
เครื่องปรับอากาศ (แอร์) เป็นอุปกรณ์ที่ทำให้บ้านของเราสะดวกสบายในช่วงฤดูร้อน แต่ก็มีค่าใช้จ่ายพลังงานที่สูง หากใช้งานไม่ถูกวิธี ซึ่งอาจทำให้บิลค่าไฟพุ่งสูงขึ้นและแอร์ใช้งานได้ไม่นาน ดังนั้นการใช้งานแอร์อย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อไม่ให้เสียค่าไฟมากเกินไปและช่วยให้แอร์ทำงานได้ยาวนานขึ้น
เลือกแอร์ที่เหมาะสมกับขนาดห้อง
หากแอร์มี BTU ต่ำกว่าความต้องการของห้อง จะทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหา ค่าไฟสูงและอายุการใช้งานสั้นลง แต่หากเลือก BTU สูงเกินไป อาจทำให้ห้องเย็นเร็วเกินไปและมีความชื้นสะสม
ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม
- กลางวัน: 25-27°C
- กลางคืน: 26-28°C
- สำหรับเด็กทารก: 26-27°C พร้อมเปิดพัดลมเบา ๆ เพื่อกระจายอากาศ
>>การดูแลรักษาแอร์

ใช้โหมดที่ช่วยประหยัดพลังงานและถนอมสุขภาพ
- โหมด Sleep: ลดอุณหภูมิอัตโนมัติขณะหลับ
- โหมด Eco: ลดการใช้พลังงานโดยยังคงความเย็นที่เหมาะสม
- โหมด Auto: ปรับอุณหภูมิตามสภาพอากาศ
จัดวางตำแหน่งแอร์ให้เหมาะสม
- ไม่ควรให้ลมแอร์เป่าตรงไปที่ เตียงนอนของเด็กหรือผู้สูงอายุ
- ติดตั้งแอร์ในตำแหน่งที่อากาศกระจายตัวได้ดี
ระบายอากาศเป็นระยะ
- เปิดหน้าต่างหรือใช้พัดลมดูดอากาศอย่างน้อย วันละ 1-2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค

ข้อควรระวังในการใช้แอร์สำหรับเด็กทารก
- ไม่เปิดแอร์ต่ำกว่า 25°C อุณหภูมิต่ำเกินไปอาจทำให้เด็กเป็นหวัดและหายใจลำบาก
- หมั่นเช็ดตัวให้เด็ก อากาศแห้งจากแอร์อาจทำให้ผิวเด็กแห้งและระคายเคือง
- ใช้เครื่องทำความชื้น (Humidifier) เพื่อรักษาความชื้นในอากาศ
- อย่าให้ลมแอร์เป่าตรงตัวเด็ก ควรให้ลมกระจายไปทางเพดานหรือผนัง
การใช้แอร์ผิดวิธีอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของ เด็กและผู้สูงอายุ โดยเฉพาะปัญหา ไข้หวัด ภูมิแพ้ และปอดบวม อย่างไรก็ตาม หากใช้อย่างถูกต้อง ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม หมั่นทำความสะอาด และเลือกแอร์ที่มีฟังก์ชันเพื่อสุขภาพ ก็จะช่วยให้การใช้แอร์เป็นประโยชน์มากกว่าผลเสีย