You are currently viewing วิธีเลือกซื้อแอร์บ้านยังไง ให้เหมาะกับบ้านคุณ

วิธีเลือกซื้อแอร์บ้านยังไง ให้เหมาะกับบ้านคุณ

การเลือกซื้อแอร์บ้านเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อทั้งความเย็นสบายและค่าไฟในระยะยาว หากเลือกแอร์ที่เหมาะสมกับขนาดห้องและการใช้งาน จะช่วยให้ประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานของเครื่องได้ นอกจากขนาด BTU ที่ต้องเหมาะกับพื้นที่แล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น ประเภทของแอร์ ฟังก์ชันพิเศษ และการประหยัดไฟที่ต้องพิจารณา บทความนี้จะแนะนำวิธีเลือกซื้อแอร์อย่างละเอียด พร้อมเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญ เพราะการเลือกเครื่องปรับอากาศหรือแอร์บ้านที่เหมาะสมนั้นสำคัญมาก นอกจากจะช่วยให้บ้านเย็นสบายแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาว

การคำนวณ BTU แอร์ให้เหมาะกับคุณ

BTU คือ อะไร? British Thermal Unit เป็นหน่วยวัดความสามารถในการทำความเย็นของแอร์บ้าน การเลือกขนาด BTUที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

วิธีคำนวณ BTU แอร์บ้าน

  • สูตรคำนวณ BTU แอร์: พื้นที่ห้อง (ตารางเมตร) x 400
  • เพิ่ม 10% สำหรับห้องโดนแดด
  • เพิ่ม 10% สำหรับห้องที่มีคนอยู่เกิน 2 คน

ตารางขนาด BTU มาตรฐาน

  • ห้อง 12-16 ตร.ม.: แอร์ 9,000 BTU
  • ห้อง 16-24 ตร.ม.: แอร์ 12,000 BTU
  • ห้อง 24-32 ตร.ม.: แอร์ 18,000 BTU
  • ห้อง 32-40 ตร.ม.: แอร์ 24,000 BTU

ประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานของแอร์

แอร์เบอร์ 5 คืออะไร?

แอร์เบอร์ 5 คือเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพการประหยัดไฟสูงสุด โดยพิจารณาจากค่า EER (Energy Efficiency Ratio)

  • EER 11.00 ขึ้นไป = เบอร์ 5
  • EER 10.00-10.99 = เบอร์ 4
  • EER 9.00-9.99 = เบอร์ 3

แอร์ Inverter คืออะไร?

แอร์อินเวอร์เตอร์หรือแอร์ประหยัดไฟ สามารถประหยัดไฟได้ 30-50% โดย

  • ปรับความเร็วคอมเพรสเซอร์อัตโนมัติ
  • ลดการทำงานแบบ Start/Stop
  • เหมาะสำหรับห้องนอนและการใช้งานระยะยาว

>> คู่มือเลือกซื้อแอร์บ้าน

ชนิดของเครื่องปรับอากาศ

เครื่องปรับอากาศ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “แอร์” มีหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป การเลือกชนิดของเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับการใช้งานจึงเป็นสิ่งสำคัญ

แอร์ติดผนัง

แอร์ติดผนัง (Wall Type Air Conditioner) เป็นเครื่องปรับอากาศที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับบ้านพักอาศัยและคอนโด เนื่องจากติดตั้งง่าย ราคาเข้าถึงได้ และดูแลรักษาสะดวก เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็กถึงกลาง เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือสำนักงานขนาดเล็ก

แอร์ติดผนังเป็นที่นิยมที่สุดเพราะ

  • ราคาประหยัด เริ่มต้น 12,000 บาท
  • ติดตั้งง่าย
  • เหมาะกับแอร์ห้องนอนและห้องนั่งเล่นขนาดเล็ก

แอร์แขวน

แอร์แขวน (Ceiling Suspended Air Conditioner) เป็นเครื่องปรับอากาศที่ติดตั้งแบบแขวนใต้ฝ้าเพดาน เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่กว้าง เช่น ห้องประชุม ร้านอาหาร โชว์รูม หรือสำนักงานขนาดใหญ่ เนื่องจากสามารถกระจายลมได้แรงและไกลกว่ารุ่นติดผนัง

แอร์แขวนเหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่

  • กระจายลมได้ดี
  • เหมาะกับห้องโถงและสำนักงาน
  • ราคาเริ่มต้น 20,000 บาท

แอร์ฝังฝ้า

แอร์ฝังฝ้า (Cassette Type Air Conditioner) เป็นเครื่องปรับอากาศที่ติดตั้งแบบฝังเข้าไปในฝ้าเพดาน ทำให้มองเห็นเพียงหน้ากากแอร์ที่กระจายลมออกมา เหมาะสำหรับบ้านพักอาศัย คอนโดมิเนียม ออฟฟิศ และร้านค้า ที่ต้องการความสวยงามและการกระจายลมที่ทั่วถึง

แอร์ฝังฝ้าหรือแอร์คาสเซ็ท

  • กระจายลมได้ 360 องศา
  • เหมาะกับห้องประชุม
  • ดีไซน์สวยงาม

คุณสมบัติพิเศษแอร์ที่ควรพิจารณา

เมื่อเลือกซื้อแอร์ (เครื่องปรับอากาศ) ควรพิจารณาคุณสมบัติพิเศษต่อไปนี้เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน

ระบบฟอกอากาศ

ปัจจุบันแอร์ฟอกอากาศมาพร้อมคุณสมบัติ

  • กรอง PM 2.5
  • ระบบฆ่าเชื้อโรค
  • ตัวกรองกลิ่น

ระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ

แอร์ล้างตัวเองช่วย

  • ประหยัดค่าล้างแอร์
  • ป้องกันเชื้อรา
  • ยืดอายุการใช้งาน

การรับประกันและบริการหลังการขายแอร์

เมื่อเลือกซื้อแอร์ นอกจากคุณสมบัติของเครื่องแล้ว การรับประกันและบริการหลังการขาย เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้มั่นใจว่าหากมีปัญหาหรือข้อบกพร่อง สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็วและไม่เสียค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็น

มาตรฐานการรับประกัน

การรับประกันแอร์ควรครอบคลุม

  • คอมเพรสเซอร์: 5 ปี
  • อะไหล่: 1 ปี
  • ค่าแรง: 1 ปี

ควรเลือกยี่ห้อแอร์ที่มี บริการหลังการขาย

  • ศูนย์บริการครอบคลุม
  • อะไหล่พร้อม
  • Call Center 24 ชม.

แอร์กี่ BTU เหมาะกับห้องนอน?

สำหรับห้องนอนขนาด 12-16 ตร.ม. ควรใช้แอร์ขนาด 9,000-12,000 BTU

แอร์บ้านราคาเท่าไหร่?

ราคาแอร์บ้านเริ่มต้นที่

  • แอร์ทั่วไป: 12,000-15,000 บาท
  • แอร์อินเวอร์เตอร์: 15,000-25,000 บาท
  • แอร์ฟอกอากาศ: 20,000-35,000 บาท

การเลือกเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสมต้องพิจารณาหลายปัจจัย ตั้งแต่การคำนวณ BTU ไปจนถึงการบริการหลังการขาย ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งานและงบประมาณ

อ้างอิง

  1. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) – มาตรฐานประสิทธิภาพพลังงาน
  2. สมาคมวิศวกรรมปรับอากาศแห่งประเทศไทย – มาตรฐานการติดตั้งระบบปรับอากาศ
  3. กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน – แนวทางการประหยัดพลังงาน

ใส่ความเห็น