You are currently viewing ปัญหาแอร์ที่พบบ่อย พร้อมวิธีแก้ไขด้วยตัวเอง แบบมืออาชีพ

ปัญหาแอร์ที่พบบ่อย พร้อมวิธีแก้ไขด้วยตัวเอง แบบมืออาชีพ

เครื่องปรับอากาศเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อน แต่หลายคนมักละเลยการดูแลรักษา การล้างแอร์ อย่างสม่ำเสมอ ทั้งที่มีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ รวมถึงสุขภาพของผู้อยู่อาศัย แอร์ที่สะอาดไม่เพียงแต่ช่วยให้บ้านเย็นขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดค่าไฟ และลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจากฝุ่นและเชื้อโรคสะสม บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ ข้อดีของการล้างแอร์ และเหตุผลว่าทำไมคุณควรให้ความสำคัญกับการดูแลเครื่องปรับอากาศของคุณ

แอร์ไม่เย็นทำยังไงดี

ในวันที่อากาศร้อนจัด ไม่มีอะไรจะน่าหงุดหงิดไปการที่แอร์ไม่เย็น หลายคนอาจสงสัยว่าเกิดจากอะไร และจะแก้ไขได้อย่างไรบ้าง อาการแอร์ไม่เย็นอาจมีสาเหตุตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ อย่างแผ่นกรองอากาศสกปรก ไปจนถึงปัญหาใหญ่ เช่น น้ำยาแอร์รั่วหรือคอมเพรสเซอร์มีปัญหา บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับสาเหตุที่พบบ่อย พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้นที่สามารถทำได้เองก่อนเรียกช่าง เพื่อให้แอร์กลับมาเย็นฉ่ำและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง

สาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่เย็น

  • แผ่นกรองอากาศสกปรก (40% ของปัญหา)
  • น้ำยาแอร์น้อย (30%)
  • คอยล์เย็นสกปรก (20%)
  • ตั้งค่าอุณหภูมิไม่เหมาะสม (10%)

วิธีแก้อาการแอร์ไม่เย็น

  1. ตรวจสอบแผ่นกรองอากาศ
    • ถอดล้างทำความสะอาด
    • ผึ่งให้แห้ง
    • ใส่กลับให้ถูกทิศทาง
  2. เช็คการตั้งค่า
    • ตั้งอุณหภูมิ 25-26°C
    • เลือกโหมด Cool
    • ตั้งความแรงพัดลมที่เหมาะสมควรเรียกช่างเมื่อ
  • ทำความสะอาดแล้วยังไม่เย็น
  • มีน้ำแข็งเกาะที่ท่อ
  • คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน

น้ำแอร์หยด

ปัญหาน้ำแอร์หยดเป็นเรื่องที่เจ้าของบ้านและผู้ใช้งานเครื่องปรับอากาศหลายคนต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นแอร์บ้านหรือแอร์ในสำนักงาน น้ำที่หยดลงมาจากตัวเครื่องอาจสร้างความรำคาญและทำให้เกิดความเสียหายต่อเฟอร์นิเจอร์ พื้น หรือแม้แต่โครงสร้างอาคาร หากปล่อยไว้นานโดยไม่แก้ไข อาจนำไปสู่ปัญหาที่ใหญ่ขึ้น เช่น เชื้อราสะสม ความชื้นสูง หรือประสิทธิภาพของเครื่องลดลง โดยมีสาเหตุหลัก และวิธีแก้ ดังนี้

สาเหตุน้ำแอร์หยด

  • ท่อน้ำทิ้งอุดตัน (50%)
  • ติดตั้งเอียง (20%)
  • น้ำยาแอร์น้อย (20%)
  • แผ่นกรองสกปรก (10%)

วิธีแก้น้ำแอร์หยด

  1. เช็คท่อน้ำทิ้ง
    • ทดสอบโดยเทน้ำลงถาด
    • เป่าลมเบาๆ ที่ท่อ
    • ทำความสะอาดปลายท่อ
  2. ตรวจสอบการติดตั้ง
    • วัดระดับน้ำ
    • ดูการเอียงของเครื่อง

แอร์มีกลิ่น ปัญหากวนใจที่ไม่ควรมองข้าม

เคยเปิดแอร์แล้วได้กลิ่นไม่พึงประสงค์หรือไม่? ปัญหาแอร์มีกลิ่นเป็นสิ่งที่หลายคนพบเจอและอาจส่งผลต่อความสบายในการใช้งาน รวมถึงสุขภาพของผู้ที่อยู่ในห้อง กลิ่นอับ กลิ่นเหม็นเปรี้ยว หรือแม้แต่กลิ่นเหม็นไหม้ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าแอร์ของคุณกำลังมีปัญหา และควรได้รับการตรวจสอบและแก้ไขโดยเร็ว

สาเหตุของแอร์มีกลิ่น

  • เชื้อราในแอร์ (40%)
  • แผ่นกรองสกปรก (30%)
  • ท่อน้ำทิ้งอุดตัน (20%)
  • สัตว์เข้าไปอาศัย (10%)

วิธีแก้ไขปัญหาแอร์มีกลิ่น

ควรล้างแผ่นกรองทุก 2-4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรค
ควรล้างแอร์ทุก 3-6 เดือน เพื่อลดการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย
หากมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ควรตรวจสอบและล้างท่อน้ำทิ้งให้สะอาด
ช่วยกำจัดเชื้อโรคและลดกลิ่นไม่พึงประสงค์
หากพบกลิ่นแปลก ๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขเองได้ เช่น กลิ่นสารทำความเย็นหรือกลิ่นไหม้ ควรเรียกช่างแอร์มาตรวจสอบทันที

แอร์มีเสียงดัง

แอร์ที่ควรทำงานเงียบ ๆ แต่กลับมีเสียงดังผิดปกติ อาจสร้างความรำคาญและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเสียงหึ่ง ๆ เสียงกระแทก หรือเสียงหวีดสูง ปัญหานี้ไม่เพียงแต่ทำให้การพักผ่อนไม่สบายใจ แต่ยังอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติของระบบภายในแอร์ ซึ่งหากปล่อยไว้อาจนำไปสู่การเสียหายที่ร้ายแรงขึ้น

สาเหตุของแอร์มีเสียงดัง

  • พัดลมแอร์มีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่
  • น็อตหรือชิ้นส่วนหลวม
  • คอมเพรสเซอร์เสื่อมสภาพ
  • ใบพัดเสียหายหรือไม่สมดุล
  • การติดตั้งไม่แน่นหนา
  • ท่อทองแดงสัมผัสกัน

วิธีแก้ไขปัญหาแอร์มีเสียงดัง

  • ตรวจสอบและทำความสะอาดพัดลม เปิดฝาครอบเพื่อตรวจดูว่ามีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่หรือไม่ แล้วทำความสะอาดให้เรียบร้อย
  • ขันน็อตและตรวจเช็กชิ้นส่วนภายใน ใช้ไขควงตรวจสอบและขันน็อตให้แน่น หากพบว่ามีชิ้นส่วนใดหลวม
  • ตรวจสอบใบพัดลม หากใบพัดชำรุดหรือไม่สมดุล อาจต้องเปลี่ยนใบพัดใหม่
  • เช็กท่อทองแดงและแยกให้ออกจากกัน หากท่อทองแดงสัมผัสกัน สามารถใช้แผ่นยางรองหรือโฟมหุ้มเพื่อป้องกันการกระทบกัน
  • ล้างแอร์เป็นประจำ ช่วยลดการสะสมของฝุ่นและสิ่งแปลกปลอมที่อาจทำให้เกิดเสียง

แอร์ไม่ทำงาน ปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม

การที่แอร์ไม่ทำงานเป็นปัญหาแอร์ที่ทำให้หลายคนรู้สึกไม่สะดวกสบายโดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนจัด เมื่อแอร์หยุดทำงานกลางคันหรือไม่ทำงานเลย อาจเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งบางครั้งสามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง แต่บางกรณีก็อาจต้องใช้ความช่วยเหลือจากช่างมืออาชีพเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี

สาเหตุที่ทำให้แอร์ไม่ทำงาน

  • ไฟฟ้าขัดข้องหรือเบรกเกอร์ตัด
  • ปัญหาคอมเพรสเซอร์
  • ขาดน้ำยาแอร์
  • แผงกรองอากาศหรือคอยล์เย็นสกปรก
  • รีโมทแอร์หรือเซ็นเซอร์มีปัญหา
  • ระบบไฟฟ้าในแอร์เสียหาย

วิธีแก้ไขปัญหาแอร์ไม่ทำงาน

  • ตรวจสอบแหล่งจ่ายไฟและเบรกเกอร์
  • ตรวจเช็กคอมเพรสเซอร์
  • เติมน้ำยาแอร์
  • ทำความสะอาดแผงกรองและคอยล์เย็น
  • ตรวจสอบรีโมทหรือเซ็นเซอร์
  • ตรวจสอบระบบไฟฟ้า

แอร์ไม่ทำงานสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ บางปัญหาสามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง แต่บางปัญหาต้องการความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แอร์กลับมาทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การตรวจสอบและบำรุงรักษาแอร์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้

อ้างอิง

  1. สมาคมช่างเทคนิคเครื่องปรับอากาศไทย – คู่มือการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น
  2. สมาคมวิศวกรรมปรับอากาศแห่งประเทศไทย – มาตรฐานการซ่อมบำรุง
  3. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย – การตรวจสอบระบบไฟฟ้าในเครื่องปรับอากาศ
  4. กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน – มาตรฐานฝีมือแรงงานช่างเครื่องปรับอากาศ

ใส่ความเห็น